ปรัชญาพ่อหลวง พออยู่พอกิน

ทุ่งหญ้า

ในการดำรงชีวิตแต่ละวันนั้น ยิ่งเราต้องอยู่กับคนในสังคมมากเท่าไหร่ การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น การเอาเปรียบซึ่งกันและกัน มักจะพบเจอกันอยู่บ่อยครั้ง ทว่าหากว่าเราอยากจะมองหาจุดของความสงบให้กับจิตใจ ให้กับชีวิต มันก็ต้องมีจุดสมดุลย์อยู่ มีความสมเหตุสมผล และไม่ถึงขั้นทะเยอทะยานจนทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งและสามารถนำมาเป็นแนวทางสำหรับการดำรงชีวิตของเราได้เป็นอย่างดี นั่นคือ “ปรัชญาพ่อหลวง”

เดินทางเส้นทางพ่อหลวง

ในเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง คำว่าเศรษฐกิจพอเพียงนั้น ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ทำงานทำการ เรามีเราใช้เราก็นอนสบาย ไว้รอเงินหมดค่อยทำมาหากิน ตอบแบบนั้นไม่ถูกต้อง เศรษฐกิจพอเพียงในสิ่งที่พ่อหลวงได้เคยสอนไว้ นั้นคือการที่เรามีความเพียรมีความมานะอดทนสู้ต่องาน สู้ต่อความยากลำบาก ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จ แต่ในทางกลับกันเราก็จะต้องใช้ชีวิตด้วยการไม่ได้เอาเปรียบผู้อื่น

ไม่ใช่ว่าใช้ความเพียรในการพยายามเอาเปรียบคนอื่นจนทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน หรือทำให้สภาวะแวดล้อมในประเทศเราเสื่อมลงทุกวัน ซึ่งมันไม่ถูกต้อง คำว่า “เศรษฐกิจพอเพียง” ในการนำมาประยุกต์ใช้ต่อการดำรงชีวิต ก็คือเรารู้จักการทำงาน เราทำตามหน้าที่ เราสามารถดูแลชีวิตครอบครัวของเราและผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากได้ ที่สำคัญต้องไม่เป็นการกระทำให้ผู้อื่นเกิดความเดือดร้อน และที่สำคัญกว่านั้นอีกคือต้องไม่ส่งผลเสียต่อประเทศชาติด้วย เพื่อให้ประเทศของเราได้พัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น

เราจะมาพูดถึงรายละเอียดความพอเพียงของปรัชญาพ่อหลวง ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ต่อการดำรงชีวิตของเราได้ เพื่อให้เป็นแนวทางกับคนรุ่นหลัง ถึงแม้ว่าพระองค์ท่านจะจากพวกเราไปเสียแล้ว แต่ปรัชญาพ่อหลวงนั้นยังคงสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อยู่ตลอดทุกยุคสมัยอย่างแน่นอน ความเพียร ความมานะความอดทน ย่อมทำให้เราเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ และความพอดีก็จะทำให้เรามีความสุขต่อการดำรงชีวิต และอาจทำให้ผู้อื่นคนรอบข้างก็มีความสุขสบายใจกับเราไปด้วย

ชีวิตพอเพียง