ของขวัญจากพ่อ “เศรษฐกิจพอเพียง”

Sufficiency Economy

เศรษฐกิจพอเพียงเป็นศาสตร์ปรัชญาที่จับต้องได้ ใช้ได้ในชีวิตจริงของคนไทยและคนทั่วโลกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9 ทรงมอบให้ไว้แก่โลก เพื่อยึดมั่นไว้สำหรับเป็นพื้นฐานในการทำกิจการงาน ทำธุรกิจ รักษาสมดุลในการใช้ชีวิต รักษาความสัมพันธ์กับผู้อื่น ทำให้บริหารจัดการทรัพยากรในสิ่งแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม

แม้ว่าหลักเศรษฐกิจพอเพียงจะถูกเผยแพร่มานานกว่า 20 ปี แต่ก็ไม่มีล้าสมัย เป็นดั่งธรรมะหรือความจริงที่มีความจริงแท้อยู่เหนือกาลเวลา หรือ “อกาลิโอ” และผู้ที่ปฏิบัติด้วยความเข้าใจ ตีความได้อย่างลึกซึ้ง จะสามารถผสมผสานให้กลมกลืนกับวิถีชีวิต อาชีพ สภาพครอบครัวและสังคมของแต่ละบุคคลได้อย่างดี

พ่อหลวงทรงทิ้งแนวทางเพื่อช่วยเหลือผู้คน

เศรษฐกิจพอเพียง หรือ (Sufficiency Economy)

เป็นหนึ่งใน “ศาสตร์พระราชา” ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงให้กำลังใจ จับใจความได้ว่า ..การเป็น-อยู่ของเรา ให้รักษาความพอมีพอกิน มีความสงบ โดยไม่ต้องไปสนใจคำพูดของคนอื่น ว่าใครจะมองว่า เราล้าหลัง .. คำว่า “ล้าหลัง” ประเด็นนี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะคนไทยสมัยในช่วงที่ผ่านมา 20- 30 ปีที่แล้ว ทั้งนโยบายชาติและทิศทางการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ก่อนยุคฟองสบู่แตก ในปี 2540 จะเน้นการเป็น “เสือตัวที่ 5 แห่งเอเชีย” เกิดการนำเข้าสินค้า แฟชั่นนิยมแบรนด์ดัง การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ มากมาย

แต่เมื่อเกิดปรากฏการณ์ “ต้มยำกุ้ง” ค่าเงินลอยตัวถึง 40 กว่าบาท คนที่ลงทุนก็หนี้เพิ่มเป็นสองเท่า จากเดิมค่าเงินบาทอยู่ราว 25 บาทต่อดอลล่าร์ การส่งออกติดขัด อสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุนสร้างไว้หลายร้อย-พันล้าน ถูกปล่อยทิ้งร้างไว้มากมาย เกิดหนี้ NPL หรือ หนี้ที่ตามคืนไม่ได้ (หนี้เสีย) เปอร์เซ็นต์สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ดังที่ปรากฎเป็นข่าวพาดหน้าหนึ่งและรายงานทางโทรทัศน์ทุกวันถึงสถานการณ์เศรษฐกิจซึมเซา หุ้นตก เกิดผู้ป่วยใหม่โรคเครียด-โรคซึมเศร้าอย่างรุนแรง เกิดการคิดสั้นหรือ หนีหนี้ในรูปแบบต่างๆ อารมณ์เหมือนนักพนันบอลที่พอเช็คผลบอลสดแล้วผิดคาด ต้องหนีหนี้อย่างเอาเป็นเอาตายเพราะไม่มีเงินมาคืน แต่หนี้ที่เกิดจากเศรษฐกิจต้มยำกุ้งนั้นเลวร้ายกว่าหลายเท่า

เมื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงตรัสมอบหลักเศรษฐกิจพอเพียง ในวันที่ 4 ธันวาคม ปี 2540 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจนี้ ก็เสมือนเป็นการฉีดวัคซีนให้คนไทยได้กลับมา “ตั้งสติ” หยุดนิ่งจากการดิ้นรนด้วยทัศนคติเดิมๆ และสร้างภูมิคุ้มกันทางอารมณ์ให้ใหม่

ของขวัญจากพ่อหลวง เรื่องปรัชญาความพอดี

แนวคิด ขยันทำกิน และรู้จักพอ

ด้วยแนวความคิดที่ว่า จะทำสิ่งใดๆ ควรตั้งอยู่บนความพอเพียง ทำกินใช้เอง เพียงพอประมาณก่อน หากเหลือค่อยเจือจุน และส่วนเกินที่สามจึงค่อยนำออกแลกเปลี่ยนจำหน่าย หลังจากนั้น แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงจึงได้เริ่มแพร่หลาย เพราะคนไทยได้น้อมรับมา “พิสูจน์” ด้วยการปฏิบัติและเป็นที่สนใจในต่างประเทศอย่างมาก

เมื่อผนวกเข้ากับพระปรีชาสามารถและ “คำสอนของพ่อ” ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์ พระจริยวัตรตั้งแต่ทรงพระเยาว์จนสวรรคต ในวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ซึ่งครบระยะเวลา 2 ปีพอดี (ปัจจุบันปี 2561) ในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงทรงได้รับการเทิดพระเกียรติและยกย่องอย่างสูงสุด เป็น “KING OF THE KING” ที่ไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดในโลกจะเทียบได้